1. ร้านค้าปลีกเป็นหนึ่งในหุ้นที่ดีที่สุด ทั้ง Best Buy และ Netflix นำตลาด S&P 500 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 270% ในปี 2013 2. ร้านค้าปลีกก็เป็นหุ้นยอดแย่ที่สุดเช่นกัน J.C. Penney ชนะเลิศหุ้นค้าปลีกยอดแย่ ราคาหุ้นตกลงไปกว่า 50% แล้วในปีนี้ 3. หุ้นของหลายบริษัทพุ่งกระฉูด เชนร้านขายยาอย่าง CVS และ Walgreen โดดเด่นและใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิม เชนร้านค้าปลีกอย่าง Safeway และ Kroger ก็ไม่น้อยหน้า เช่นเดียวกับหุ้นบลูชิพใน Dow อันได้แก่ Boeing และ Nike ในปี 2013 มากกว่า 86 บริษัทใน S&P500 เพิ่มขึ้นกว่า 50% 4. กองทุนรวมหุ้นขนาดใหญ่ที่ผลงานชนะเลิศก็คือ The RidgeWorth Aggressive Growth Stock ในปีนี้กองทุนนี้เพิ่มขึ้นกว่า 55% แล้ว ภาพจาก: USA Today 5. หุ้นไม่ถูก แต่ก็ยังไม่แพงจนเกินไป ถึงแม้หุ้นจะเพิ่มขึ้นมาก แต่ตลาดโยรวมก็ยังไม่เกินมูลค่า ขณะนี้ S&P500 เทรดที่ PE 16 เท่าของผลกำไรปีก่อน และเทรดที่ PE 15 เท่าของคาดการณ์ผลกำไรปีหน้า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ PE เกือบ 15 ก็ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ 6. นักลงทุนรายย่อยแย่งกันเข้าซื้อหุ้น สำหรับปีนี้นักลงทุนได้ลงทุนมากกว่า 140 พันล้านเหรียญสหรัฐในกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้น ในขณะที่ปีที่แล้วเงินไหลออกจากกองทุนรวมถึง 153 พันล้านเหรียญสหรัฐ 7. นักลงทุนมีความโลภเป็นอย่างมาก ดัชนีวัดความกลัวและความโลภของ CNN Money ซึ่งใช้ตัวชีวัดทั้ง 7 ประเภทบ่งบอกถึงความอ่อนไหวในตลาด ระบุว่าในอาทิตย์หลังๆ ดัชนีได้บ่งชี้ว่านักลงทุน มีความโลภสูง (Extreme Greed) 8. กระทิงมีอายุเกือบ 5 ขวบแล้ว ตลาดกระทิงได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว S&P500 เพิ่มขึ้นมาแล้ว 170% จากจุดตกต่ำถึงขนาดเรียกว่า "Devil's Low" of 666 เมื่อวันที่ 9 มีนาคมปี 2009 ข้อมูลจาก CNN Money